ความแตกต่างของการใช้
need, want, must, have to, have got to
เรามาเริ่มดูกันที่คำแรกเลยนะคะ
1. want ซึ่งแปลว่า ต้องการ, อยาก
ตัวอย่างเช่น I want to eat some ice cream. (ฉันอยากกินไอศกรีม)
หรือในภาษาพูดที่เขามักจะพูดจากคำว่า want to เป็น wanna
ตัวอย่างเช่น I wanna eat some ice cream.
และคำว่า wanna ห้ามใส to ตามหลังอีกเป็นอันขาด เพราะคำว่า wanna นั้นก็ย่อมาจากคำว่า want to ซึ่งจะมี to อยู่ในตัวแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่มีคำว่า wanna to เด็ดขาด
2. must จะแปลว่า จำเป็นต้อง
must to ไม่มีนะคะแบบนี้ must จะต้องไม่มี to ตามหลังเด็ดขาด ซึ่งที่ถูกต้องจะมีแค่ must และตามหลังด้วยความจำเป็นที่เราต้องทำสิ่งต่างๆ
must นั้นไม่ใช่แค่ ต้อง เท่านั้น แต่ต้องเป็น จำเป็นต้องทำ เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ
ตัวอย่างเช่น I must learn English to prepare for the AEC.
(ฉันจำเป็นต้องเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่อาเซียน)
3. need แปลว่า ต้อง
ตัวอย่างเช่น I need to lose weight. (ฉันต้องลดน้ำหนัก)
>> ซึ่งถ้าสังเกตุเห็น คำว่า want กับ need จะมีความหมายเหมือนๆ กัน แต่จริงๆ แล้ว 2 คำนี้ที่มีความหมายว่า ต้อง นั้นจะเป็นความต้องการกันคนละแบบ คือ คำว่า want นั้นเป็นความต้องการที่เป็นความปราถนา หรือเป็นความต้องการทั่วๆ ไป แต่คำว่า need นั้นเป็นสิ่งที่ต้องการ หรือเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้
ตัวอย่างเช่น I want to eat some ice cream. (ฉันอยากกินไอศกรีม)
I need to take medicine because I'm sick.
(ฉันจำเป็นต้องกินยาเพราะฉันไม่สบาย)
4. have to แปลว่า ต้อง แต่ต้องในที่นี้เป็นกรณีของการโดนบังคับให้ทำ
ตัวอย่าง I have to go to school. (ฉันต้องไปโรงเรียน)
5. have got ซึ้งจะแปล่วา ต้อง เหมือนกัน
ตัวอย่างเช่น I have got to get a haircut. (ฉันต้องไปตัดผม)
หรือบางครั้งเราอาจจะตัด have ออกแล้วเมื่อตัดออกก็จะเป็น I got a haircut.
บางทีหลายๆ คนอาจจะไม่ชอบที่จะอ่านตัวหนังสือเยอะๆ ก็สามารถชมสิ่งเหล่านี้ได้
จากวีดีโอด้านล่างนี้เลยนะค่ะ
thx.
ตอบลบGood
ตอบลบ